คั่นรายการ โดย Lordofwar Nick
อภิปรายเรื่อง “อิคิไก” (生き甲斐) ในทัศนะของ Lordofwar Nick
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักครับ ที่จริงทีแรกผมเขียนเรื่องนี้ไว้เพื่อจะลงตอนส่งท้ายปี 2023 แต่เนื่องจากมีเรื่องแทรกคือเรื่องที่ไปแข่งสยามคัพมา ฉะนั้นก็ขอย้ายเอาลงเอามาลงคั่นรายการตรงนี้ก่อนที่จะเริ่มซีรี่ส์ใหม่ในเดือนพฤษภาคม คงไม่ว่ากันนะครับ
นานมาแล้ว มีอยู่วันหนึ่งมีคนถามผมว่า ทุกวันนี้ผมใช้ชีวิตอยู่กับบราซิลเลี่ยนยูยิตสูซ้อมมันเข้าไปทุกอาทิตย์ๆ เนี่ย (ถามว่าอยู่กับมันมานานแค่ไหน ยิมผมเปิดมาห้าปีแล้วก็ นั่นแหละครับ 555) จะบอกว่า บราซิลเลี่ยนยูยิตสู นั้น เป็น “อิคิไก” ของผมหรือยัง?
ผมก็เลยสงสัยว่าแล้วไอ้คำว่า “อิคิไก” มันคืออะไรหว่า
พอไปค้นในกูเกิล ก็เจอเนื้อหาที่แบบ อ่านแล้ว งงไปเลย เช่นประมาณว่า อะไรนะ “อิคิไก คือ ส่วนที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง 4 องค์ประกอบสำคัญ (ดังนี้)”
ที่มา pasamol.com
หรือไม่ก็ ประมาณว่า อะไรนะ
“คุณค่าในชีวิต เกิดจากการลงมือทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตร”
“ให้คำสัญญากับตัวเอง : เป็นคำสัญญาที่มีความหมายต่อชีวิต”
“จดจ่อกับสิ่งที่ทำ : ไม่หวังคำชื่นชม”
“หลงรักในงานอดิเรก : ทำหัวใจให้อิ่มสุข”
ที่มา มูลนิธิยุวพัฒน์
ยิ่งอ่านก็ยิ่ง what the f**k ทำไมมันต้องสลับซับซ้อนขนาดนั้น เงื่อนไขเยอะขนาดนี้ ชีวิตคนทำไมจะทำหรือไม่ทำอะไรทำไมต้องยาก ชีวิตมันต้องง่าย ถ้ามันยากแสดงว่ามันผิด น่ะสิ
พอผมคิดได้แบบนี้ก็เลย เอามันง่ายๆ อ่านมันแบบ “ตามตัวอักษร” เลยละกัน
อิคิไก 生き甲斐 อิคิ 生き ก็ มาจาก อิคิรุ 生きる “มีชีวิต” กับ กาอิ 甲斐 คำว่ากาอิควรแปลว่าอะไร ไปเจอในเว็บนี้ เขาอธิบายรากศัพท์ของคำว่า กาอิ ว่า คำว่า กาอิ นั้น แผลงมาจากคำว่า กาอุ (代ふ・替ふ ตัวคันจิทั้งสองตัวนั้นมีความหมายว่า “แทน”) หมายถึง “เอามาแทนได้” “สิ่งที่เอามาแทนได้”(代わりとなることができる物事)แผลงความหมายเป็นว่า ราคา (เนอุจิ 値打ち)(อารมณ์เหมือนมันมีราคามากพอจะจ่ายเงินเท่านี้ๆ เพื่อให้ได้มันมา)
ส่วนตัวคันจิ กาอิ 甲斐 ไม่ได้เอาคันจิมาสื่อความหมายแต่ประการใด เป็นแค่การเอาตัวคันจิมาสะกดแทนเสียง (อย่างที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า อะเทจิ 当て字) แค่นั้นเอง
ดังนั้น พอเอามาประสมกัน อิคิไก ก็ต้องแปลว่า สิ่งที่ (มีราคามากพอจะ) เอามาแทนชีวิตได้
ที่คนมักให้ความหมายว่า อิคิไก หมายถึง ความหมายของการมีชีวิตอยู่ มันก็ไม่ผิดเสียทีเดียวหรอกครับ แต่ มันก็ไม่ “ตรงตามตัวอักษร” นัก
จะเห็นได้ว่า คำว่า อิคิไก นี้ มันเป็นอะไรที่อยู่บนพื้นฐานของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบสุดโต่งจริงๆ คืออารมณ์เหมือน ฉันต้องมีอะไรสักอย่างที่มันมีคุณค่ามีราคามากพอที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลก แบบฉันมีชีวิตอยู่เพื่อมัน ทำได้ทุกอย่างแบบ ยอมตายเพื่อมันเลยเอ้า! (เช่นยอมตายเพื่อศักดิ์ศรี หรือเพื่อทำฝันให้เป็นจริง บลาๆ) ด้วย Mindset วิธีคิดแบบนี้ ไม่แปลกที่ญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมการทำงานออฟฟิศที่ฝรั่งยังใช้คำเหน็บแนมว่า workaholic มีชีวิตอยู่เพื่อทำงานจริงๆ แล้วก็ตายเพราะทำงานหนักเกินไปจริงๆ ซึ่งฝรั่งก็เหน็บไปอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้เข้าใจหรอกว่า วิธีคิดของคนญี่ปุ่นคือบางทีเขาไม่ได้มองชีวิตว่าสำคัญหรือมีค่ามากที่สุด (เพราะอาจยังมีสิ่งอื่นที่มีค่า “มากกว่า” ชีวิตเสียอีก)
เพราะคนญี่ปุ่นมีความคิดแบบนี้ (ชีวิตไม่ใช่สิ่งสำคัญสุด) แหละ มันถึงมีความสุดโต่งแบบทำอะไรต้องทุ่มสุดตัวเพื่อ “อะไรสักอย่าง” แบบไม่คิดชีวิต แม้แต้ในการ์ตูนกีฬาก็จะเห็นภาพที่แบบ สู้จนตัวตาย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ฝรั่งอาจจะมองว่าไม่เมคเซนส์อย่างแรงก็ได้ (กีฬาก็คือกีฬา แพ้ชนะก็ว่ากันไป วันนี้ไม่ชนะวันหน้ามีโอกาสค่อยแก้มือใหม่ก็ได้) แต่คนญี่ปุ่น (โดยเฉพาะสมัยก่อน) นี่ถือเป็นคุณค่าที่ต้องเชิดชูเลย
โปรดดูภาพของ “โจ สิงห์สังเวียน” ตามข้างล่างนี้แล้วก็พิจารณาไปด้วยครับ
ที่มา wordpress.com
ขอวกกลับมาที่คำถามที่มีคนถามผมนะครับว่า “บราซิลเลี่ยนยูยิตสู นั้น เป็น “อิคิไก” ของผมหรือยัง?”
จริงๆ ควรจะต้องตอบคำถามนี้ก่อนครับว่า “บราซิลเลี่ยนยูยิตสู นั้น เป็น “อิคิไก” ของผมหรือเปล่า?”
คำตอบคือ “ไม่ใช่” ครับ
ผมกล้าพูดว่า บราซิลเลี่ยนยูยิตสู เป็นสิ่งที่มีคุณต่อชีวิตของผมมาก ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ถึงขนาดที่ผมเชื่อว่า มันจะเป็น “เสา” ที่จะค้ำยันชีวิตของผมให้ดำเนินอยู่ต่อไปได้ด้วยซ้ำ
แต่โดยนัยนี้ อาจกล่าวได้ว่า บราซิลเลี่ยนยูยิตสู เป็นสิ่งที่ผมนำเข้ามาเพื่อ “รับใช้” ชีวิตของผม ผมมีมันเพื่อให้ชีวิตตัวเองอยู่ไปได้ มันมีอยู่เพื่อชีวิตของผม แต่ไม่ใช่ว่าชีวิตผมมีอยู่เพื่อมัน (เพราะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของตัวเราเอง) ดังนั้น ผมคงไม่ขนาดยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อมัน
แต่ถ้าอย่างนักกีฬาบางคนที่ผมเคยอ่าน อย่าง เคิร์ต แองเกิล อดีตนักมวยปล้ำที่ยอมเสี่ยง “คอหัก” (เสี่ยงที่จะพิการตลอดชีวิต) เพื่อเหรียญทองโอลิมปิก อันนั้นแหละอาจจะบอกได้ว่า เหรียญทองโอลิมปิกเป็น “สิ่งที่มีราคามากพอจะเอาชีวิตเข้าเสี่ยง (ยังไม่ขนาดเข้าแลก)” ได้
แต่เหรียญทองโอลิมปิกควรจะเรียกว่าเป็น “อิคิไก” ไหม ผมว่าไม่ มันเป็นเพียง “เป้าหมาย” หนึ่งเท่านั้น
ผมไม่รู้ว่าตามเว็บต่างๆ ของไทยไปเอาไอ้ภาพวงกลมสี่อันซ้อนกันมาจากไหน ที่นิยามแบบวางเงื่อนไขมากมายว่า อิคิไก น่ะ ต้องรักด้วย ถนัดด้วย โลกต้องการด้วย แล้วก็หาเงินกับมันได้ด้วย…
…บอกตรงๆ นะ ถ้าคุณต้องมาแคร์ความคิดของคนในสังคมที่ไม่ใช่ตัวคุณ ให้เขามาขีดเส้นว่า ต้องโลกต้องการนะ หาเงินกับมันได้นะ มันก็ ไม่ใช่อะไรที่มันออกมาจากใจคุณตัวคุณเองแล้วล่ะ…
…คุณทำในสิ่งที่คุณอยากทำ ก็พอแล้ว ขอแค่ไม่ผิดกฎหมายไม่ขัดต่อจริยธรรม ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ
ฉะนั้นผมขอเตือนว่า การรับเอาหลักปฏิบัติ ค่านิยมอะไรมาใช้นั้น จำเป็นต้องดูที่มา บริบททางสังคม-วัฒนธรรม ของมันให้ดีก่อนนะครับ แล้วก็นะ ให้ตายสิ ผมไม่ชอบเลย ไอ้การพยายามจะสร้าง “สูตรสำเร็จ” เพื่อตีกรอบคนในลักษณะนี้
ครับ การอภิปรายของผม ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ (จบแบบ ดื้อๆ ซะงั้น) อ้อ ขอฝากพอตแคสต์ “ยูยิตสูเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ซึ่งตอนนี้มีอ่านหนังสือเสียง “คัมภีร์ห้าห่วง” ด้วยแล้วนะครับ นอกจากจะใน Spotify แล้ว วันนี้ ท่านสามารถฟังได้ทาง YouTube Music อีกช่องทางหนึ่งนะครับ (เขาว่าจะยกเลิก Google Podcast แล้ว)
https://music.youtube.com/playlist?list=PLkjLfj5Sfu9ahDWPVUUVyxg_EEY59ibco&si=Abp6VQXFCfj6PS3j
พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะครับ (ยังมี “คั่นรายการ” อีกหนึ่งตอน) สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (19) อภิปรายท้ายเรื่อง
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (18) อนาคตของบูชิโด
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (17) บูชิโดไม่มีวันตาย
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (16) บูชิโดสร้างชาติ
– บูชิโด: จิตวิญญาณของญี่ปุ่น (15) ผู้หญิงกับบูชิโด
#อภิปรายเรื่อง “อิคิไก” (生き甲斐) ในทัศนะของ Lordofwar Nick