ความลับแห่งอายุที่ยืนยาวของชาวญี่ปุ่น เผยเคล็ดลับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความยืนยาว มีประชากรอายุเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในเกาะโอกินาวา ที่มีอัตราส่วนของผู้สูงอายุเกิน 100 ปี มากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ไม่เพียงแต่อายุยืนเท่านั้น คนญี่ปุ่นยังมีสถิติการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่ำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายอีกด้วย เคล็ดลับความลับของการมีอายุขัยยืนยาวของชาวญี่ปุ่น มาจากหลายปัจจัยด้วยกันครับ ได้แก่ ลักษณะนิสัยความเป็นอยู่ อาหารการกิน การออกกำลังกาย บทบาทหน้าที่ในสังคม และปัจจัยด้านจิตใจ ซึ่งล้วนแต่ส่งเสริมให้เกิดสุขภาพที่แข็งแรง ป้องกันการเจ็บป่วย และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขยาวนาน เรามาดูกันทีละปัจจัยกันครับ
วินัยและความใส่ใจในสุขภาพของคนญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นมีความตระหนักถึงคุณค่าของการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก พวกเขาจะพยายามรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกไขมันหรือน้ำตาลสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง และไม่ลืมที่จะดูแลจิตใจให้ผ่อนคลาย นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นยังมีความเชื่อและค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด การอาบน้ำแช่ออนเซ็นเป็นประจำ รวมถึงการทานอาหารเพื่อสุขภาพ อย่างผักผลไม้ ปลา และข้าวกล้อง ทำให้พวกเขามีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ผิวพรรณสดใส และสุขภาพแข็งแรง ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้อายุยืนยาวนั่นเอง
ถึงจะดื่ม/สูบแต่ก็มีความรับผิดชอบอย่างเพียงพอต่อสังคม
บางคนอาจแย้งว่าคนญี่ปุ่นนั้นดื่มจัด สูบบุหรี่จัด ในความเป็นจริงนั้น คนญี่ปุ่นไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์กันตลอด จะดื่มเฉพาะเทศกาลพิเศษซึ่งอาจเป็นของที่ทำงาน ครอบครัว หรือวันสำคัญ ที่มากกว่านั้นคือคนญี่ปุ่นเมื่อจะรู้สภาพร่างกายตัวเอง กล่าวคือหลายๆคนก็จะดื่มเครื่องดื่มบำรุงร่างกายที่มีส่วนผสมของธัญพืชเพื่อลดการดูดซึมแอลกอฮอล์ในลำไส้ใหญ่ลง แต่ละคนจะรู้ลิมิตตัวเองว่าดื่มได้แค่ไหน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจก็จะดื่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่มีส่วนผสมของธัญพืชเพื่อช่วยให้สร่างจากอาการมึนเมาได้รวดเร็วขึ้น หากมีอาการมึนเมาก็จะไม่รุนแรง บางประเทศจะถือคติ “เมาไม่ขับ” แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นประชาชนจะเคร่งครัดมากว่า “ดื่มไม่ขับ” คือถ้าดื่มแอลกอฮอล์ จะมากจะน้อย จะไม่ขับยานพาหนะใดๆด้วยตัวเอง แต่จะเลือกโดยสารรถแท็กซี่ รถไฟ รถบัส เพื่อกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง
สำหรับการสูบบุหรี่นั้น ปริมาณสารนิโคตินและธาร์ในบุหรี่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น จะมีปริมาณเพียง 10% หากเทียบกับบุหรี่ทั่วไปที่มีจำหน่ายในประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ พื้นที่สำหรับผู้สูบบุหรี่จะถูกจัดไว้ให้อย่างจำเพาะ ปลอดภัยต่อผู้อื่นที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อาหารการกินแบบญี่ปุ่น ดีต่อสุขภาพอย่างไร?
อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีอายุยืนยาว เพราะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย โดยชาวญี่ปุ่นรับประทานแบบนี้มาเป็นพันปี สืบทอดวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบนี้จากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่อง
อันประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้
– ปลา อาหารทะเลต่างๆ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และให้กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ บำรุงสมอง และป้องกันภาวะสมองเสื่อม
– ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดขาว ฯลฯ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง
– ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ส้ม แอปเปิ้ล กีวี ที่มีทั้งวิตามินซี เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ และชะลอวัยได้ดี
– ถั่วเหลือง ทั้งถั่วลิสง ถั่วแดง เต้าหู้ มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง ไขมันต่ำ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
– ชาเขียว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์ได้
– อาหารหมักดองต่างๆ เช่น มิโสะ นัตโตะ ผักดอง อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร เสริมสร้างระบบขับถ่าย และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ทั้งหมดที่กล่าวมาในข้างต้นจะถูกจัดให้มีปริมาณอาหารที่เหมาะสมในทุกพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงอาหาร โรงพยาบาล โรงแรม ภัตตาคารต่างๆ ล้วนแล้วแต่ใช้มาตรฐานเดียวกัน คนญี่ปุ่นจะรับประทานอาหารแต่พอดี ไม่มากเกินไป จนเกิดภาวะอ้วนลงพุง การจัดสัดส่วนอาหารครบ 5 หมู่ในจานเดียว หรือที่เรียกว่า ‘washoku’ นั้น จะมีข้าวเป็นอาหารหลัก ตามด้วยโปรตีน ผัก ซุป และผลไม้ จึงทำให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน หลากหลาย และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย
ออกกำลังกาย ช่วยยืดอายุขัยของเซลล์และอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
คนญี่ปุ่นมีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงาน ไปโรงเรียน ซึ่งเป็นการออกกำลังที่ไม่หักโหมจนเกินไป แต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน มะเร็งบางชนิด ภาวะซึมเศร้า นอกจากนั้นยังเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่งด้วย คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยนิยมเล่นกีฬากลางแจ้ง เช่น เดินขึ้น-ลงเขา
ว่ายน้ำ ปิงปอง เทนนิส หรือฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างเช่นคาราเต้ ไอคิโด โดยการออกกำลังแบบแอโรบิกนี้ นอกจากจะช่วยให้หัวใจและปอดทำงานได้ดีแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาความเครียด และจิตใจให้สดชื่นอีกด้วย
จึงไม่แปลกใจที่คนญี่ปุ่นจะออกกำลังกันอย่างจริงจัง เพื่อสุขภาพที่ดียาวนานนั่นเอง คนญี่ปุ่นทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแล้วก็ขยายไปเป็นส่วนหนึ่งของแต่ละสถานประกอบการตามที่เราเคยเห็นตามคลิปว่า มีการออกกำลังกายก่อนเริ่มงาน มีการให้นั่งตามกำหนดเวลา เวลาพักเที่ยงก็คือให้พักรับประทานอาหารจริงๆให้ได้พักผ่อน บางทีไม่ได้ห้ามเรื่องการงีบหลับเวลากลางวัน จากนั้นก็ทำงานต่อในช่วงบ่ายหรือตามที่ได้รับมอบหมาย ตกเย็นก็มักจะมีกำหนดให้พนักงานสมัครเป็นสมาชิกสถานออกกำลังกายเอกชนหรือสถานออกกำลังกายที่มีให้ในแต่ละเขตก็ได้ ด้วยความมีวินัยและมีความสามารถทางด้านกีฬาอยู่ในยีนส์ของพวกเขา ทำให้ชนชาติญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งชาติมหาอำนาจทางด้านกีฬา หลายชนิดกีฬาที่ติดอันดับโลกและเก่งชนิดที่ชาติอื่นตามไม่เห็นฝุ่น เช่น เบสบอล ฟุตบอล วอลเล่บอลล์ ว่ายน้ำ วิ่งมาราธอน ฯลฯ
บทบาทหน้าที่ในสังคมของผู้สูงวัยแบบญี่ปุ่น
ในสังคมญี่ปุ่น ผู้สูงอายุจะไม่ถูกมองข้ามหรือถูกเลือกปฏิบัติ แต่กลับได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่มีคุณค่าในครอบครัวและสังคม มีประสบการณ์ และมีบทบาทสำคัญในครอบครัวและสังคม บ่อยครั้งที่เราจะเห็นคุณตาคุณยายชาวญี่ปุ่น ยังคงทำงานอดิเรกหรืองานพาร์ทไทม์ ออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนหรือวัด เลี้ยงหลานตัวน้อย ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือหาเวลาเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ การที่ผู้สูงอายุได้เข้าสังคม รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการและมีประโยชน์อยู่ จะยิ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตทั้งด้านจิตใจและสังคม ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว มีความมั่นใจในตัวเอง ฟื้นฟูความจำ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย แสดงให้เห็นว่าวิถีชีวิตของผู้สูงวัยแบบญี่ปุ่น มีส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขามีอายุยืนยาวนั่นเอง
แล้วคนไทยเราล่ะครับ ต้องลด ละ เลิกอะไร ถึงจะอายุยืนแบบญี่ปุ่น?
หากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอดีตจนมาถึงยุคก่อนปีพ.ศ.2543 เรื่องสุขภาพคงไม่เป็นประเด็นที่น่ากังวลสำหรับคนไทย เนื่องจากอาหารไทยนั้นประกอบไปด้วยสมุนไพร ข้าว เนื้อสัตว์ ไข่ นม ที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ในช่วงกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา วิถีการรับประทานอาหารของคนไทยเปลี่ยนไปมากหากเทียบกับประเทศญี่ปุ่น คนไทยนิยมรับประทานอาหารจานด่วนกันมากยิ่งขึ้น ทานอาหารที่ปรุงรสจัดและผ่านกรรมวิธีกันจนเป็นเรื่องปกติ น้ำอัดลม เครื่องดื่มต่างๆก็มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก ทำให้อัตราส่วนของผู้ป่วยด้วยโรคไม่ติดเชื้อเรื้อรัง หรือ Non-communicable Diseases (NCDs) อันประกอบด้วยโรคเบาหวาน ภาวะอ้วนลงพุง ไขมันพอกตับ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคไต เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากเราต้องการยืดอายุแบบคนญี่ปุ่น ก็จำเป็นต้องลด ละ เลิกพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ
– ลดการรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ของทอด ของมัน หวาน เค็ม จำพวกขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัว โซเดียม และน้ำตาลสูง อาจก่อให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน ความดันสูงได้
– ละพฤติกรรมเนือยนิ่ง การนั่งทำงานหน้าจอนานๆ การนอนดึก นอนน้อย หรือการไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเริ่มจากการลุกเดินบ้าง ทานข้าวไม่เกินหกโมงเย็น และนอนก่อนสี่ทุ่ม
– ลดละเลิกบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของมึนเมา และสารเสพติดต่างๆ ที่เป็นตัวการทำลายอวัยวะภายในอย่างตับ ปอด หัวใจ สมอง
ประเทศไทยมีอาหารที่คุณภาพดีถึงดีมาก เรามีวัตถุดิบให้เลือกใช้มากกว่าประเทศไหนๆในโลก สามารถปรุงเป็นอาหารรสชาติถูกปากและเป็นโภชบำบัดได้อีกด้วย เริ่มต้นได้จากตัวเราและการเอาใจใส่คนรอบข้างครับ
ขอให้ผู้อ่านมีสุขภาพดีและมีความสุขครับ
เรื่องแนะนำ :
– การพิชิตใจหนุ่มญี่ปุ่น เคล็ดลับติดหนุบหนับจับให้ปัง
– อยากพิชิตใจสาวญี่ปุ่น ต้องทำยังไงบ้าง?
– แนวโน้มสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่นและโอกาสของชาวไทยที่ทำงานด้านสุขภาพสัตว์ ตอนที่ 2
– แนวโน้มสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่น ตอนที่ 1
– โรนิน: ทางเลือกของนักเรียนญี่ปุ่นที่ไม่ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งแรก
#ความลับแห่งอายุที่ยืนยาวของชาวญี่ปุ่น เผยเคล็ดลับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี