ล่ามนักกีฬาอาชีพ อาชีพที่หลายๆ คน รวมถึงน้องๆ ที่เรียนญี่ปุ่นหรือชอบฟุตบอล Inbox หาผมว่าอยากลองทำ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ว่ามันเป็นยังไง
อาชีพนี้มีทุกอย่าง ไม่มีอย่างเดียว แค่เวลา…
ผมคงต้องเล่าต้นกำเนิดของผมกับภาษาญี่ปุ่น มันเกิดจากความชอบในการฟังเพลงญี่ปุ่นสายยุค 90 แบบผม คือ J-Rock วงที่ผมต้องเก็บเงินไปซื้อ CD ในสมัยก่อนคือ X-Japan แล้วทำให้เป็นแรงบันดาลในทั้งการเรียนกีตาร์ อยากร้องให้ได้เลยตัดสินใจเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.3 ต่อไปยังเรียน… สมัยนั้นสายศิลป์ (ภาษาญี่ปุ่น) ตอน ม.4
ผมเกือบจะจริงจังกับการเล่นดนตรี แต่ก็มีจุดหักเหในชีวิตเพราะเหมือนยิ่งเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วยิ่งสนุกกกว่าในช่วงเด็กจนต่อมายังมหาลัย แต่ผมก็จะเป็นเด็กคนนึงที่ ไม่รู้หรอกเรียนไปก่อน ซึ่งในยุคของผมจบไปทำงานอะไร ไม่รู้เลยแค่ชอบเลยเรียนไปก่อนค่อยว่ากัน
ช่วงมหาลัยผมได้ N2 (JLPT) ในช่วงปี 3 ขณะที่ N1 ก็คือปีที่ห้าหลังจบไปปีนึง แต่ชีวิตจริงในการทำงานกับการเรียนแค่ในหนังสือ ท่องจำสิ่งที่มันขาดหายไปคือการพูด แล้วมันคือสิ่งที่ผมกลัวตลอดในการทำงานล่าม แต่ยุคนั้นเมื่อเกือบ 18 ปีที่แล้วคนจบเอกภาษา งานที่ได้เงินดีที่สุดคือล่ามโรงงาน เพราะมันเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาเป็นไลน์โรงงานการผลิตค่อนข้างเยอะ
หลังจากจบ งานแรกที่ผมได้คือล่ามโรงงานนั้นแหละ เราต่อสู้ช่วงนั้นกับภาษาพูดที่เราไม่ดีขนาดนั้น เพราะเราอยู่แต่ในตำรา แล้วตำราเราก็ไม่ได้มีคำศัพท์เรื่องเฉพาะทางเพราะตอนนั้นผมทำงานโรงงานสี ก็ต้องเรียนรู้ ขณะที่งานจริงค่อนข้างกดดัน เพราะมันมีจังหวะที่เราไม่รู้ศัพท์พูดไม่ได้ เกิดอาการ Panic ในตัวเองตลอด แปลไม่ได้เอ่อ เครียดจนผมหงอกในวัย 23 แล้วก็ทนได้มาจนสามเดือนซึ่งมันก็ดีขึ้นจากคำศัพท์ที่เราเก็บมากขึ้น แต่ด้วยความอินดี้ของผมเองก็คิดว่าเราคงไม่เหมาะกับล่าม เงินได้เยอะก็จริง ช่วงเกือบ 20 ปีที่แล้วได้เงินเดือนเด็กทดลองงานเดือนละ 2 หมื่นผมก็ว่าเยอะละ แต่มันไม่ใช่ทางเราผมลาออกหลังจากจบช่วงทดลองงานสามเดือนทันทีหลังจากจบทั้งที่เข้าจะให้ผมเป็นพนักงานประจำ
จากการรู้สึกเฟลในครั้งนั้น ถ้าจะใช้คำว่าอะไรคำนึงในยุคนี้ที่มีคือผมน่าจะซึมเศร้าจากงานที่เจอ ไม่อยากทำอะไรไม่ทำงานไปเกือบปีนั่งเล่นเกม รับส่งแม่ไปทำงาน แต่ก็ยังดีที่ที่บ้านเข้าใจผม
ในช่วงเกือบปีนั้น อยู่ดีๆ เพื่อนผมก็โทรหาเพราะว่า ส.ส.ท. กำลังหาเจ้าหน้าที่ในการดูแลลูกค้าญี่ปุ่นที่เรียนภาษาไทย แล้วมันก็เป็นช่วงพี่กำลังคิดแล้วว่าควรจะต้องทำงานได้ละมั้ง ก็ลองไปสัมภาษณ์ แล้วก็ได้งานนี้ ในหน้าที่แรกคือการเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลคอร์สเรียนภาษาไทยที่ต้องคุยกับแม่บ้านญี่ปุ่นทุกวัน ร้อยเรื่องพันเรื่อง…
ผมบอกเลยว่ าที่นี่คือที่ที่สร้างผม ในการสร้างความมั่นใจในการพูดให้กับผม แล้วก็ให้โอกาสในการให้ผมได้ลองสอนภาษาญี่ปุ่น
ผมเองเคยออกอาการเกร็งๆ ตอนต้องสอนเวลาเจอสาวๆ กรุ๊ปสอนแอร์คนไทย ผมใช้เวลาอยู่ที่ ส.ส.ท. เกือบ 5 ปี ได้มั้ง จนรู้ว่าคนสอนหนังสือ 2 ชั่วโมง ต้องเตรียมตัวเอง 4 ชั่วโมงเบิ้ลไป แล้วเราก็อินดี้สะด้วยจน เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่ทางเรา แต่โอกาสอีกรอบของผมมันก็มาจากเพื่อนผมอีกครั้ง กับการเข้าไปในวงของกีฬา…
เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังต่อไปในในครั้งหน้านะครับ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ ที่กำลังเรียนญี่ปุ่น ชอบกดไลท์ อยากอ่านต่อคอมเมนต์ใต้คอนเทนต์ครับ
เรื่องแนะนำ :
– เค้าผิดไรอ่ะ? 5 การเลิกกับแฟนแบบงงๆ จากญี่ปุ่น 555
– สวยตาแตก! 14 ภาพฝีมือนักวาด Background เกม ตัวท็อปจากญี่ปุ่น
– จะบ้า! 13 ผลงานการประกอบร่างสติกเกอร์ Line สุดปั่น จากญี่ปุ่น 555
– ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ! 5 ชาวญี่ปุ่นอวดเรื่องดีเกินคาด หลังอกหัก!
– มาจากไหน? : เรื่องลี้ลับจากญี่ปุ่น ของการมีใครบางคนมาอาศัยอยู่ด้วย
#ล่ามนักกีฬาอาชีพ อาชีพที่น้องๆ สายญี่ปุ่นอยากลองทำ