วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie [เชิงอรรถ 1] เกะฮายะ ปะทะ สุคุเนะ
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน พบกับผม Lordorwar Nick อีกแล้วนะครับ ถึงเนื้อหาหลักจะจบ แต่ผมยังไม่อยากจบง่า 555 ในการเขียนซีรี่ส์นี้คราวนี้ ผมไปเจอข้อมูลอะไรที่แบบ มันน่าสนใจนะ แต่ถ้าไปใส่เนื้อหาหลัก เรื่องมันจะยาวเกินจนกลายเป็นไม่เห็นภาพต่อเนื่องของการคลี่คลายของ “ยูยิตสู” ในประวัติศาสตร์ตามพล็อตเรื่องที่ได้วางไว้ ก็เลยขออนุญาตท่านผู้อ่าน ยกเนื้อหาที่เป็นเหมือน “พล็อตย่อย” ออกมาเป็น “เชิงอรรถ” แทน หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะไม่ว่ากระไร และได้รับสาระและความบันเทิงจากเนื้อหาในภาค “เชิงอรรถ” นี้นะครับ
สำหรับตอนนี้จะว่าถึงจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ว่าวิชาต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่โบราณที่สุด “สุไม” นั้น คลี่คลายกลายเป็น “ซูโม่” ได้อย่างไร โดยเอาเรื่องการต่อสู้ในตำนานของ เกะฮายะ ปะทะ สุคุเนะ จนทั้งสองได้ถูกยกให้กลายเป็น “เทพเจ้าแห่งซูโม่” ไป เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขอเชิญอ่านเรื่องดูรูปกันได้เลยครับ
ไทมะ โนะ เกะฮายะ (当麻蹴速) เกิดเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มีชีวิตอยู่จนถึงวันที่เจ็ดเดือนเจ็ดปีที่เจ็ดแห่งรัชกาลพระจักรพรรดิซุยนิน (垂仁天皇) ซึ่งพอกล้อมแกล้มเทียบเคียงได้กับ 23 ปีก่อนคริสตกาล (คือเป็นคนเมื่อสองพันกว่าปีก่อนว่าซั่น) ถิ่นฐานบ้านเดิมอยู่ที่ ไทมะโนะมุระ (当麻邑) แคว้นยามาโตะ (ปัจจุบันคือ อำเภอคัตสึรากิ จังหวัดนารา)
ใน “นิฮนโชกิ” กล่าวว่า เกะฮายะคุยโอ่ว่ามีพลังกล้าแข็ง พร้อมไฝว้กับผู้ใดก็ได้แบบเป็นตายไม่เกี่ยง ความทราบไปถึงพระกรรณของจักรพรรดิซุยนิน ดังความว่า
「朕聞 當麻蹶速者天下之力士也」
“ข้าฯ ได้ยิน (มาว่า) ไทมะ โนะ เกะฮายะ เป็นจอมพลังแห่งใต้หล้า” (เทงคะ โนะ จิคาระฮิโตะ 天下之力士)”
จึงทรงเรียกผู้กล้าจากแคว้นอิซุโมะ นามว่า โนมิ โนะ สุคุเนะ (野見宿禰) มาแล้วจัดให้มีการไฝว้กันในกติกาของ “สุไม” (捔力) ผลคือ หลังจากแลกกันเตะใส่กัน สุดท้าย เกะฮายะ โดนสุคุเนะ กระทืบสะเอวหักตาย ครับ (ที่ดินของเกะฮายะก็ถูกริบเอามาเป็นรางวัลแก่สุคุเนะผู้ชนะไป) ดังความว่า
「各擧足相蹶則蹶折當麻蹶速之脇骨亦蹈折其腰而殺之」
“ต่างยกตีนเตะกัน แล้วเตะหักกระดูกรักแร้ (หมายถึงซี่โครง) ของเกะฮายะ แล้วยังย่ำสะเอวนั้นหักจนตายด้วย”
ชื่อเกะฮายะ นั้น แปลตรงตัวแปลว่า “เตะไว” (เกะ เกะรุ 蹴る “เตะ” ฮายะ ฮายาอิ 速い “ไว”) ครับ ประมาณเหมือนอวดโอ่ว่าเป็นเลิศในทางวิชาเตะ (แต่โดนกระทืบสะเอวหักตายเนี่ยนะ นี่แหละครับ การต่อสู้ เราไม่รู้หรอกอะไรจะเกิดขึ้น)
ภาพงานพิมพ์แกะไม้ เกะฮายะ ปะทะ สุคุเนะ ปี พ.ศ. 2428 (ที่มา wikipedia)
“ต่างยกตีนเตะกัน แล้วเตะหักกระดูกรักแร้ (หมายถึงซี่โครง) ของเกะฮายะ แล้วยังย่ำสะเอวนั้นหักจนตายด้วย” ภาพวาดการ์ตูน สุคุเนะ กระทืบ เกะฮายะ จนสะเอวหักตาย โดย อีตาเกย์สุเกะ ปี พ.ศ. 2561 มั๊ง 555 (ที่มา pantip)
เมื่อตายไปแล้ว ภายหลังจึงได้ถูกยกขึ้นเป็น “เทพเจ้าแห่งซูโม่” คู่กับสุคุเนะ (นับเป็นการประลองในตำนานจริงๆ) ที่ศาลเจ้าอะนะชินิมาสุเฮียวซุ (穴師坐兵主神社) อำเภอซากุระอิ จังหวัดนารา มีการตั้งศาลเจ้าซูโม่ เพื่อบูชากราบไหว้เกะฮายะและสุคุเนะ จนถึงทุกวันนี้ ส่วนสุสานของเกะฮายะ ก็ยังอยู่ที่อำเภอคัตสึรากิ จนถึงทุกวันนี้ ครับ
สุสานของเกะฮายะ (ที่มา wikipedia)
อ่ะเรามาคุยเกร็ดประวัติศาสตร์อีกนิดกันครับ
“สุไม” นั้น โบราณเขียนเป็นตัวคันจิว่า 角力 บ้าง 捔力 บ้าง 角觝 บ้าง แต่น่าจะออกเสียงเพี้ยนจนเป็น “สุโม” พอมาสมัยเมจิ ยังเขียนว่า 角力 กันอยู่มาก มาสมัยนี้จึงบัญญัติเขียนว่า 相撲 ไป แล้วจริงๆ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าแบบนี้ยังมีอีกชื่อว่า เตะโกอิ (手乞 หมายถึงการไปคว้ากำมือของคู่ต่อสู้) อีกด้วย
ทีนี้เรามาดูประวัติของ “ผู้ชนะ” กันบ้าง
โนมิ โนะ สุคุเนะ (野見宿禰) นั้น เรื่องเล่าประวัติชีวิตค่อนข้างเป็นตำนาน โดยในหนังสือ “ชินเซ็นโชจิโรคุ” (新撰姓氏録) กล่าวถึงวงศ์วานว่า เป็นลูกหลานรุ่นที่ 14 ของเทพอาเมะโนะฮิโตะ (天穂日命) (เอาจริงดิ) ส่วนเรื่องราวหลังจากที่ประลองกับเกะฮายะนั้น เมื่อชนะเกะฮายะในศึกประลองเตะกันตายแล้ว ก็ได้ที่ดินของไทมะแคว้นยามาโตะ (ก็คือตำบลไทมะ อำเภอคัตสึรากิ จังหวัดนารา ในปัจจุบัน) แล้วยังได้รับใช้จักรพรรดิซุยนินด้วย ว่ากันว่า สุคุเนะนี่แหละ ที่ริเริ่มประเพณีใหม่ คือการปั้นตุ๊กตาฮานิวะไปใส่หลุมพระศพแทนการฝังข้าราชบริพารอย่างที่ทำมาแต่ก่อน ในพิธีพระบรมศพของ ฮิบาสึฮิเมะ โนะ มิโคโตะ (日葉酢媛命) พระชายาของจักรพรรดิซุยนิน (แต่ก็มีผู้แย้งว่า เป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้นมาเท่านั้น อ้าว) ได้รับพระราชทานนามสกุล ฮาจิโนะโอมิ (土師臣) เรื่องที่ฮาคือ ว่ากันว่า สุคุเนะป่วยตายที่ทัตสึโนะ แคว้นฮาริมะ (ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดเฮียวโกะ) ที่นั่นก็เลยมีสุสานและศาลเจ้าโนมิโนะสุคุเนะอยู่ แต่ แต่ ที่อำเภอทตโทริ (จังหวัดทตโทริ) และอำเภอมัตสึเอะ (จังหวัดชิมาเนะ) ก็มี “สุสานของโนมิโนะสุคุเนะ” ด้วย (เอาล่ะสิ) โดยเคลมว่า ได้รับแบ่งกระดูกมา (หลังจากตายแล้วที่ทัตสึโนะ) ขนาดที่จังหวัดนารา ก็ยังมี “สุสานของโนมิโนะสุคุเนะ” เลย
บันเทิงจริงๆ ครับ ก็อย่างว่าแหละ บุคคลในตำนาน ใครๆ ก็อยากมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนานกันทั้งนั้น (ฮา)
เป็นอันว่า เกร็ดตำนานเรื่องวิชาต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ก็เป็นอันจบแต่เพียงเท่านี้ครับ (เฮ้ย)
“คัมภีร์ห้าห่วง” เวอร์ชั่นออดิโอบุ๊ค แปลเองอ่านเองนักเลงพอ ๕๕๕ มาจนใกล้จะจบ “คัมภีร์แห่งอาโป” แล้วนะครับ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย
สัปดาห์หน้าจะมาเขียน “เชิงอรรถ” เรื่องอะไรต่อก็เดาเอาเองนะครับ สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– ว่าด้วยคำว่า “อดทน” ในภาษาญี่ปุ่น กามัน (我慢) กับ นินไต (忍耐)
– ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie (8) การฟื้นคืนชีพของวิชาสายคว้าจับ (grappling) ในสายตาของสังคม
– ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie (7) ความตกต่ำของวิชาสายคว้าจับ (grappling) ในแง่การให้ราคาของสังคม
– ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie (6) คิมูระ มาซาฮิโกะ ยอดยูโดผู้หักแขน Helio Gracie มาแล้ว!
– ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie (5) มาเอดะ มิตสึโยะ Conde Koma ผู้สอนวิชา “ยูยิตสู” ให้คนตระกูลเกรซี่!
#ประวัติศาสตร์ของ “ยูยิตสู” ฉบับ Renzo Gracie [เชิงอรรถ 1] เกะฮายะ ปะทะ สุคุเนะ