ยามะจังหลังภาวะ global pandemic ใฝ่หาความเปลี่ยนแปลง
ภาพประกอบโดย WALK on CLOUD
ในปีค.ศ. 2020 จากการระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบให้ร้านยามะจังต้องหยุดร้าน หรือจำกัดเวลาทำการ มีการขายข้าวกล่องเบนโตะแทน แต่ก็ไม่เพียงพอกับค่าแรงคนและค่าเช่า ต้องอาศัยกินเงินสะสมเก่าไปเรื่อยๆ
คุณยะมะโมะโตะ คุมิ (山本久美) เจ้าของร้านยามะจังและ CEO บริษัท เอสวายฟู้ด ระลึกถึงช่วงวันเวลาที่เปรียบดั่ง “นรก” 地獄[จิโกะคุ] เธอยังคงจ่ายค่าแรงเต็มจำนวนกับพนักงาน ซึ่งต้องขอบคุณสามีผู้ล่วงลับที่ตั้งบริษัทนี้มาและไม่เคยใช้จ่ายเงินเกินตัว เลยทำให้พอมีเงินเก็บเหลือใช้
ก่อนโควิด ธุรกิจร้านยามะจังถือว่าเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ธุรกิจอื่นๆเป็นเพียงพระรองเพียงเพื่อ “support” เท่านั้น แต่เมื่อมาเจอโควิดแล้ว ทำให้คุณคุมิคิดว่า “สมมติ ถ้าจะต้องถึงขั้นปิดทุกสาขาก็ตาม ยังไงก็ต้องสร้างระบบที่สามารถหารายได้ได้“ จึงมีความพยายามที่จะหารายได้จากหลากหลายช่องทาง
หนึ่งในนั้นคือ การทำธุรกิจขายปลีกเอาสินค้าตัวเองไปวางขายตามซุปเปอร์มาร์เกต ซึ่งเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 จากการขายปีกไก่ทอดแช่แข็ง และร่วมมือกับผู้ผลิตอาหารรายอื่นทำสินค้าที่ Collaboration กันอย่างเช่นเอาพริกไทยที่ใช้ในปีกไก่ทอดมาใช้กับมันฝรั่งทอด โคโรเกะ หรือ ผงทำข้าวผัด
มีการลงแรงไปกับธุรกิจที่ส่งรถ Kitchen car ไปตามสวนสัตว์หรือพื้นที่บริการของทางด่วน มีเมนูพิเศษที่เดินถือสะดวกอย่างไก่ทอดติดกระดูกอย่าง “ทิวลิปคาราเกะ” ทำให้ชื่อของยามะจังเป็นที่รู้จักมากขึ้นในพื้นที่ที่ไม่มีสาขาร้านอาหาร
นอกจากยามะจังแล้ว ก็มีความพยายามทำร้านอาหารแนวอื่นบ้าง อย่างเช่นมีการเปิดร้าน “จูขะซะคะบะยะมุจัง” (中華酒場やむちゃん) ในแถวพื้นที่ฟุชิมิ เมืองนาโกย่า เมื่อเดือนมกราคมของปีนี้ (2024) ร้านนี้โมเดลมาจากเมืองในไต้หวัน มีเมนูพิเศษอย่าง ขนมจีบเนื้อ เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน (มาโบโตฟุ 麻婆豆腐)
ต้องบอกว่าเมื่อก่อนโควิด ทางบริษัทได้ลองเปิดร้านอาหารจีนไปแล้ว แต่เพราะโควิดทำให้ยอดขายตกจึงต้องปิดร้านไป ร้านอาหารที่ปิดไปนั้นเน้นเมนูติ่มซำ ตกแต่งร้านเพื่อกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่น่าจะชอบถ่ายรูปลงโซเชี่ยลมีเดีย
แต่ในความพยายามครั้งนี้ทางบริษัทเปลี่ยนเป็นร้านอาหารจีนแบบ “มะจิจูขะ” (町中華) ซึ่งเป็นลักษณะแบบร้านอาหารจีนที่พบได้ในญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทั้งเด็กเล็กผู้ใหญ่และคนแก่มีความคุ้นเคยมากกว่า ทางบริษัทเล็งเห็นตรงนี้ว่าร้านจะเข้าไปอยู่ในใจทุกคนทุกเพศทุกวัยได้ง่ายกว่าเดิม
มีการเปิดร้านอาหารอีกเกรดนึงที่สูงกว่า ยามะจัง ชื่อร้านว่า “ยามะ” 山 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทที่ต้องการเลี้ยงต้อนรับลูกค้า ด้วยบรรยากาศที่สงบและมีระดับ กับอาหารราคามิตรภาพอย่างปีกไก่ทอด ทำให้ได้รับความนิยม เพิ่งเปิดสาขาที่ 3 ใกล้ๆสถานีนาโกย่าเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม (2024) ที่ผ่านมา
หากลองมาไล่ดูประวัติความเป็นมาของบริษัทเอสวายฟู้ด ในอดีตพวกเขาเคยลองทำร้านซูชิกับ french toast ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทกล่าวว่า “ท่านอดีตประธานบริษัท คุณชิเกะโอะเป็นคนที่มองว่าอะไรดีก็ลงมือทำ ซึ่งการลองทำสิ่งใหม่ๆโดยไม่กลัวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญของบริษัท“
และเพื่อเป็นการเร่งการปฏิวัติ คุณคุมิมองว่า “ต่อไปต้องไม่เป็นฉัน เราต้องการบุคคลที่จะคอยดึงบริษัทต่อไปข้างหน้า“ จึงได้แต่งตั้งประธานบริษัทเมื่อเดือนกันยายนปี 2020 คนที่ได้รับการแต่งตั้งคือคุณ คิโมะโตะ เคนอิจิโระ (木元建一郎) อายุ 37 ปี ซึ่งเขาเคยเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารและมีประสบการณ์ในการเปิดร้านยามะจังในต่างประเทศด้วยกันกับอดีตประธานบริษัทคุณชิเกะโอะ
ด้วยความที่ยังเด็กและอยู่ในบริษัทมาไม่นาน ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการแต่งตั้งคุณคิโมะโตะเป็นประธานบริษัท แต่ด้วยความที่คุณคิโมะโตะเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรเร็ว, พยายามเอาตัวไปอยู่หน้างานจริงๆ และเป็นคนที่คิดอะไรก็แสดงความคิดของตัวเองออกมาชัดเจน ทำให้คุณคุมิคาดหวังในตรงจุดนี้ ซึ่งปัจจุบันแบ่งหน้าที่กันโดย คุณคิโมะโตะจะดูแลเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจและการพัฒนาแบรนด์ ส่วนคุณคุมิดูแลเรื่องการพัฒนาบุคลากร
คุณชิเกะโอะเคยกล่าวไว้ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ไว้ว่า “การคงทุกอย่างไว้เหมือนเดิมคือการเดินถอยหลัง“ ซึ่งทางบริษัทเอสวายฟู้ดยังคงไว้ซึ่งอุดมการณ์นี้เพื่อใฝ่หาความเปลี่ยนแปลง
ภาพประกอบ WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– การจากไปของประธานยามะจัง สานต่อด้วยคุณภรรยา
– กินข้าวคนเดียวกับโกะโร่ซังจากละคร Solitary Gourmet
– เซ็คคุ…วันของมนุษย์
– เซ็คคุของดอกเก๊กฮวย
– เทศกาลดวงดารา วันที่ 7 เดือน 7 ทะนะบะตะ
– https://www.yomiuri.co.jp/local/chubu/feature/CO072156/20240624-OYTAT50033/
#ยามะจังหลังภาวะ global pandemic ใฝ่หาความเปลี่ยนแปลง