สีเฉดแดงในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
ภาพประกอบโดย WALK on CLOUD
ว่ากันว่าสีที่สืบทอดกันมาในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมีมากกว่าหนึ่งพันสี
สีเหล่านี้มีชื่อเรียกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น…
ประเทศญี่ปุ่นมีสี่ฤดูกาล ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีอิทธิพลมายังสีสัน สีที่แลดูคล้ายกัน ผู้คนก็พยายามหาความแตกต่าง และตั้งชื่อเรียกเป็นเอกลักษณ์โดยอาศัยชื่อของต้นไม้และสัตว์มาเปรียบเปรย
วันนี้เราจึงขอหยิบยกสีสันเหล่านี้มาเล่าให้ฟัง โดยขอเริ่มที่สีเฉดแดงก่อน
สีบ๊วยแดง 紅梅色 [โคไบอิโระ こうばいいろ]
R:232
G:107
B:121
เป็นสีแดงที่ปนเฉดสีม่วง ชื่อสีได้มาจากสีของดอกบ๊วยที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ หากพูดถึงเกียวโตะในหน้าหนาวที่ทำให้ผู้คนทุกข์ทรมาน พอเข้าฤดูใบไม้ผลิเห็นดอกบ๊วยเบิกบาน คงทำให้จิตใจผู้คนชื่นมื่นขึ้นมาได้
ดอกบ๊วยเป็นต้นไม้ที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน ในยุคสมัยนารายังมีเพียงดอกบ๊วยสีขาว
หากคำว่า “ชมดอกไม้” 花見 ซึ่งเขียนด้วยคันจิตัว “ดอกไม้” 花 นั้น ถ้าเป็นคนในยุคสมัยก่อนแล้วจะใช้คำว่า “ชมดอกบ๊วย : 梅見” เขียนด้วยคันจิ “บ๊วย” 梅 เป็นคำในชีวิตประจำวันกันซะมากกว่า การชมดอกไม้นั้นก็คือการชมดอกบ๊วยนั้นแล
ในยุคสมัยเฮอันถึงเริ่มมีการเข้ามาของดอกบ๊วยสีแดง จนสีบ๊วยแดงเป็นที่นิยมชมชอบ ชื่อของสีดอกบ๊วยแดงนี้พบได้ตามกลอนของราชวังหรือในเรื่องเล่าต่างๆ
ตัวอย่างเช่นนวนิยายเรื่องเกนจิโมะโนะกะตะริ เล่มที่ 26 ที่ชื่อเล่มว่า อุเมะกะเอะ (梅枝 : ก้านบ๊วย) ในเล่มนี้ได้กล่าวถึงลูกสาวคนเดียวของเกนจิที่ชื่อว่า อะคะชิโนะฮิเมะกิมิ ที่กำลังจะไปรับใช้ในราชสำนักภายใน จึงได้รับเครื่องหอมเป็นของขวัญจากอะซะกะโอะผู้เป็นอดีตหัวหน้านักบวชหญิง อะซะกะโอะเป็นผู้หญิงที่เกนจิหลงใหลแต่มิอาจเป็นคู่ครองของเธอได้ เกนจิยังคงคิดถึงอะซะกะโอะเสมอมาจึงส่งเสื้อโฮะโซะนะกะสีดอกบ๊วยแดงเป็นของขวัญกลับไป จดหมายที่แนบไปก็ย้อมกระดาษเป็นสีดอกบ๊วยแดง และม้วนกระดาษด้วยก้านของต้นดอกบ๊วยแดงที่บานอยู่ในสวน
เราคงจะเห็นอิทธิพลของสีดอกบ๊วยแดงกับชีวิตของผู้คนผ่านเรื่องเล่าของตัวละคร
การเลือกแต่งกายให้เข้ากับฤดูกาลแสดงถึงการศึกษาและรสนิยมที่ดี ซึ่งผู้คนคงเลือกสีดอกบ๊วยแดงหรือเลือกใช้กระดาษสีบ๊วยแดงเพื่อให้เข้ากับฤดูกาล
สีบ๊วยแดงนี้ ยังสามารถเป็นอีกหลายเฉดสีอันได้แก่
濃紅梅 [โคะคิโคไบ :こきこうばい] บ๊วยแดงเข้ม
R:73
G:16
B:34
薄紅梅 [อุสุโคไบ :うすこうばい] สีบ๊วยแดงอ่อน
R:252
G:190
B:193
สีต่อไปคือสีอะคะเนะ 茜色 [อะคะเนะอิโระ : あかねいろ]
หรือในชื่อภาษาไทยคือ สีต้นเข็ม
R:157
G:41
B:50
สีอะคะเนะว่ากันว่าเป็นสีของท้องฟ้ายามเย็นในทิศตะวันตก
ในภาษาอังกฤษเรียกสีนี้ว่า madder red
ชื่อ “อะคะเนะ” นั้นว่ากันว่ามาจากคำว่า “รากแดง” ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตสี โดยคำว่า “รากแดง” อ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นตรงๆ ได้ว่า “อะคะ” 赤 (แดง) + “เนะ” 根 (ราก) = 赤根
สีอะคะเนะ เป็นสีที่เกิดจากการย้อมรากพืชยืนต้นในวงค์เข็ม ซึ่งเป็นสีแดงเข้มออกมืดๆ สีอะคะเนะเป็นสีย้อมที่เก่าแก่ในประวัติศาสตร์มนุษย์พอๆ กับสีคราม (สีอะอิ 藍色) เก่าแก่ขนาดมีบทบันทึกว่า ฮิมิโคะ (卑弥呼) ราชินีแห่งประเทศยะมะไทโคะคุ (邪馬台国) ได้รับผ้าย้อมสีอะคะเนะจากวุยก๊กในแผ่นดินใหญ่
ในยุคเอโดะ มีการย้อมสีอะคะเนะใช้ย้อมสีแดงของธง “ฮิโนะมะรุ” (กลมพระอาทิตย์)
สีเมฆตะวันออก 東雲色 [ชิโนะโนะเมะอิโระ : しののめいろ]
R:241
G:144
B:114
สีเมฆตะวันออกเป็นสีเหลืองแดงสว่างราวกับท้องฟ้ายามเช้า คำว่า “ชิโนะโนะเมะ” มาจากคำว่า 篠の目 [ชิโนะโนะเมะ] ซึ่งหมายถึงช่องตารางของประตูไม้ของบ้านสมัยโบราณที่ทำจากต้นไผ่ชิโนะ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านเราจึงเห็นสีนี้ ผู้คนจึงเอาเสียงคำว่า “ชิโนะโนะเมะ” ไปใช้กับตัวคันจิที่อ่านออกเสียงแบบเดียวกันเป็น 東雲 ที่แปลตรงตัวได้ว่า “เมฆตะวันออก”
ไม่มีค่ำคืนใดที่ไม่สิ้นสุด และแสงแห่งเมฆตะวันออก “ชิโนะโนะเมะ” นั้นเป็นการเริ่มต้นใหม่ของวัน
วันนี้กล่าวถึงเฉดแดงไปแล้ว ไว้โอกาสหน้าเรามาว่าถึงสีอื่นกันครับ
ภาพประกอบ WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– สีครามกับญี่ปุ่น
– โลกหลังความตายของเทพอิซะนะมิ ภรรยาของเทพให้กำเนิดญี่ปุ่น
– เทพแห่งพายุ สุสะโนะโอะ (Susanoo no Mikoto)
– ความแตกต่างระหว่าง 妥当[ดะโต] “เหมาะสม” และ 適当[เทะคิโต] ที่มีหลายความหมาย
– ยามะจังหลังภาวะ global pandemic ใฝ่หาความเปลี่ยนแปลง
อ้างอิง
– https://journal.thebecos.com/traditional-color/
– https://www.kateigaho.com/article/detail/99473
– https://irodori-cou.jp/column/detail/20220811062616/
#สีแดงกับญี่ปุ่น #สีเฉดแดงในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น #สีญี่ปุ่น