昭和の紙芝居
Showa no kamishibai
เรื่องเล่าภาพนิทานบนจักรยาน ในสมัยโชวะ
มีหลายครั้งที่เวลาเดินทางไปทำงานหรือท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ผมได้ไปเห็นตู้ที่มีด้านหนึ่งเป็นตู้ลิ้นชัก ส่วนอีกด้านเป็นฉากหน้าจั่ว มีบานประตูเล็กๆเ ปิดออกคู่กัน ด้านในนั้น สามารถนำสมุดนิทานเข้าไปใส่เอาไว้ได้ แล้วตัวตู้ใบนี้ ก็จะติดอยู่ที่ด้านหลังจักรยาน ขนาดของตู้ที่เคยเห็นก็มีหลากหลาย ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แตกต่างกันไป นึกสงสัยว่าตู้เก็บของ ทำไมต้องมีฉากหน้าจั่ว ก็เก็บความสงสัยเอาไว้เรื่อยมา จนกระทั่งได้ไปเจองานกิจกรรมเล่านิทาน เป็นนิทานประเภทเรื่องเล่าพร้อมภาพประกอบ จึงได้เห็นตู้หน้าจั่วที่คุ้นตาอีกครั้ง
เจ้าตู้ใบนี้มีชื่อว่า 紙芝居 (Kamishibai) เป็นศิลปะการเล่าเรื่องด้วยภาพ จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1930 มันเป็นการพัฒนาจากการเล่าเรื่องของนักบวช ผ่านม้วนกระดาษ แล้วหลังจากนั้น ก็มีการนำมาปรับใช้เล่าเรื่องราวต่างๆ ทั้งนิทาน ทั้งเรื่องเล่าเสียดสีสังคม เรื่องเล่าการต่อสู้กับชีวิตที่ยากลำบาก ให้กำลังใจ รวมถึงเรื่องเล่าการปลูกฝังชาตินิยม และการเรียนการสอนผ่านการเล่าเรื่อง การเล่านิทานภาพในยุคเริ่มต้น ยุคนั้นยังคงอยู่ในช่วงระหว่างสงคราม การกระจายข่าวสาร และการจัดการเรียนการสอนก็ทำได้ยาก ส่งผลทำให้นักเล่าเรื่องในยุคนั้นได้รับความนิยม และเป็นอาชีพที่ได้รับการยอมรับอย่างมากมาย จึงก่อให้เกิดการขยายตัวของนักเล่านิทานเป็นอาชีพทั่วทั้งญี่ปุ่น
เมื่อมีความนิยมเกิดขึ้น ด้วยการลงทุนไม่สูงมาก แค่จักรยานกับตู้ไม้ใบเดียว ก็หาเงินได้แล้ว ทำให้มีนักเล่าเรื่องเล็งเห็นช่องทางทำมาหากิน จึงได้คิดดัดแปลงตัวตู้นิทาน ให้สามารถเก็บสินค้าได้ด้วย โดยสินค้า (ส่วนมากจะเป็นขนม จำพวกเซ็มเบ้ หรือน้ำตาลปั้น) จะใส่เอาไว้ในลิ้นชัก และตัวตู้จะติดอยู่ที่ตัวจักรยาน และจะใช้จักรยานนี่แหละ เดินทางเปลี่ยนเมือง เพื่อเล่าเรื่อง และขายสินค้าไปด้วย เริ่มต้นจากการประกาศไปทั่วว่าจะเล่านิทาน หรือจะเล่าถึงเรื่องอะไร แล้วจึงบอกสถานที่ ที่จะไปจอดจักรยานเพื่อทำหน้าที่เล่าเรื่องนั้นๆ ซึ่งในระหว่างเล่าเรื่อง ก็จะโฆษณาขายสินค้าต่างๆ ไปด้วย (เหมือนหนังกลางแปลงบ้านเรา ในสมัยก่อน) แต่การเล่าเรื่อง จะแตกต่างกันตรงที่จุดประสงค์ของการเล่า และอายุของผู้ฟัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังเสียมากกว่า มีเพียงส่วนน้อย ที่จะเล่าเรื่องเสียดสีสังคมในยุคนั้นๆ ให้กลุ่มผู้ใหญ่ฟัง
ในสมัยนั้น การทำสมุดภาพ มักจะวาดด้วยตัวผู้เล่าเองเสียเป็นส่วนใหญ่ ภาพวาดก็จะเน้นไปที่เรื่องราวการผจญภัย ชวนตื่นเต้น เรื่องการต่อสู้ มีการใช้เสียง และเครื่องเคาะต่างๆ ในระหว่างการเล่า เพื่อความสนุกสมจริง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมากของเด็กๆ และนิทานเรื่องค้างคาวทอง (黄金バット) ก็กลายเป็นนิทานที่นิยมมากที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมดในขณะนั้น ซึ่งเนื้อเรื่องก็เป็นการต่อสู้กันระหว่าง ค้างคาวทอง กับจอมโจรค้างคาวดำ วาดโดย ทาเคโอะ นากามัตสึ
การเล่านิทานภาพ ในช่วงระหว่างสงครามได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนตกงานกันมาก การค้าขายไม่สามารถทำได้ง่ายๆ และใช้เงินลงทุนสูง ดังนั้นเมื่อมีนักเล่านิทานมากขึ้น ในปีค.ศ. 1937 สมาคมนักเล่านิทานเพื่อการศึกษาแห่งญี่ปุ่นจึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา โดยสมาคมนี้มีภาระกิจหลักๆ คือ มีการตีพิมพ์นิทานภาพเกี่ยวกับเรื่องราวที่สำคัญๆ ปลูกฝังความรักชาติบ้านเมือง เพราะนักเล่านิทานภาพ ถือเป็นการกระจายข่าวอีกช่องทางหนึ่ง รวมถึงการควมคุมเนื้อหาที่ไม่ถูกต้อง เนื้อหาความรุนแรง (เพราะมีเด็กๆดูเยอะ) ที่สำคัญคือเพิ่มการเล่านิทานเชิงการเรียนการสอนและเพื่อการศึกษาของเด็กๆ ที่ในช่วงสงครามไม่มีโรงเรียนให้ไปถือได้ว่านักเล่านิทานภาพในยุคนั้น มีความสำคัญเหมือนครูคนหนึ่งเลยทีเดียว
การเล่านิทานภาพ ในช่วงหลังสงคราม ด้วยการยึดครองของฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้นิทานภาพหลายเรื่องต้องถูกคัดกรอง และห้ามใช้นำไปเล่า และด้วยภาวะความยากจนหลังสงคราม ผู้คนว่างงานมากมาย จึงหันมาทำอาชีพนักเล่านิทานกันเยอะมาก ว่ากันว่า ในยุคนั้น มีนักเล่านิทานภาพมากกว่า 50,000 คน เลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของนักเล่านิทานภาพที่สุดแล้ว และหลังจากการมาของโรงละคร และเครื่องรับโทรทัศน์ อาชีพนักเล่านิทานภาพก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ และหายไปในช่วงปีค.ศ. 1953-1960 แต่ก็ยังคงมีนักเล่านิทานภาพที่ยังคงอนุรักษ์วิชาชีพเฉพาะทางนี้จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบัน ทางสมาคมยังคงจัดให้มีการประกวดแข่งขัน การเล่าเรื่องนิทานภาพกันอยู่ทุกปี โดยหวังว่าจะมีนั่งเล่าเรื่องหน้าใหม่ๆเกิดขึ้น ส่วนศิลปินนักเล่านิทานภาพ ที่ยังคงตระเวนแสดงอยู่ก็มีหลายคน เช่น杉浦貞さん (Sugiura tadashi), さるびあ亭かー (Sarubia teika) , 三ツ沢グッチ (Mitsuzawa Gucci), 三橋とら (Tora Mitsuhashi), もっちぃ (Motchii), 〇〇一味 ( 〇ichimi) เป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ อยากชมนักเล่านิทานภาพ พร้อมบรรยากาศการขายขนมให้เด็กๆ เชิญชมได้ทางนี้จ้า
สุดท้ายแล้ว Showa no kamishibai เรื่องเล่านิทานบนจักรยาน ในสมัยโชวะ แม้จะดูจืดจางลง แต่ก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน การเรียนรู้ และการปลูกฝังถึงเรื่องเล่า และนิทานภาพเหล่านั้น มันได้กลับกลายเป็นรากฐานของการ์ตูนมังงะ ของญี่ปุ่นในปัจจุบันที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน กับนักเล่านิทานภาพในตำนานนั่นเอง
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมนักเล่านิทานภาพ ได้จากที่นี่ครับ https://www.kamishibai-ikaja.com/index.html
ทักทายพูดคุยกับทีมงานเจแปนโบรชัวร์ได้ที่ www.facebook.com/JapanBrochure/
เรื่องแนะนำ :
– Art Sento + Cafe Miyanoyu เปลี่ยนโรงอาบน้ำสาธารณะให้เป็นคาเฟ่แสดงงานศิลปะที่โตเกียว
– Supermarket Kakamu ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งจินตนาการ
– เดินทางผจญภัยในโลกใบนี้ผ่าน Google Street View ของคุณ Nao Tatsumi
– Ponshu-Gria สุดยอดไอเดียม็อกเทล ที่เป็นมากกว่าเครื่องดื่ม
– Fuji Moon Night Picnic ไปปิคนิคนั่งชมพระจันทร์ช่วงฤดูใบไม้ร่วงด้วยกันไหม
#Showa no kamishibai เรื่องเล่าภาพนิทานบนจักรยาน ในสมัยโชวะ